แนะนำตัวเองเวลาสัมภาษณ์ยังไงให้ได้งานด้วยหลักการ STAR Model
การสัมภาษณ์งานเป็นประสบการณ์ที่หลายคนอาจรู้สึกว่าท้าทาย บางคนอาจกังวลกับคำถามที่คาดไม่ถึง หรืออาจสัมภาษณ์งานเป็นครั้งแรก ทำให้เกิดความประหม่า และไม่แน่ใจว่าจะเตรียมตัวอย่างไร หากคุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้อยู่ ไม่ต้องกังวลไป!
วันนี้ ทีม Talance จะพาคุณเตรียมพร้อมกับ “เตรียมตัวสัมภาษณ์เดอะซีรีย์” ซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจ และพร้อมลุยกับทุกสนามสัมภาษณ์ ใน EP. แรกนี้ เราจะเริ่มด้วยคำถามที่ต้องเจอทุกครั้งในการสัมภาษณ์งาน นั่นคือ “การแนะนำตัวเอง” หลายคนอาจคิดว่าการแนะนำตัวเองนั้นง่าย เพียงแค่บอกชื่อ ประวัติการศึกษา และประสบการณ์ทำงานก็พอ แต่ถ้าทุกคนตอบเหมือนกันละ? เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีการแนะนำตัวเองให้โดดเด่นและไม่เหมือนใคร
พร้อมแล้วหรือยัง? ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย!
การแนะนำตัวในการสัมภาษณ์งาน
การแนะนำตัวเองในการสัมภาษณ์งานเป็นคำถามสำคัญ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้คุณสร้าง First impression หรือสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์ตั้งแต่เริ่ม คำถามนี้มักจะถูกถามเป็นคำถามแรกในการสัมภาษณ์งานเสมอ และเรียกได้ว่าเป็นคำถามที่พบได้ในทุกการสัมภาษณ์ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหรืออุตสาหกรรมใด ๆ ผู้สัมภาษณ์จะใช้คำถามนี้เพื่อประเมินทั้งทักษะด้าน Soft Skills เช่น การสื่อสาร การจัดการเวลา และการทำงานเป็นทีม รวมถึงทักษะเฉพาะทางหรือ Hard Skills เช่น การเขียนโปรแกรมหรือการวิเคราะห์ข้อมูล นอกจากนี้ยังดูที่ทัศนคติในการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ ความรับผิดชอบ รวมถึงประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ความสำเร็จ และบทเรียนที่ได้รับ แล้วเราจะมีวิธีการเตรียมตัวตอบคำถามยังไง ไปดูกันในส่วนถัดไปกันเลยค่ะ
หลักการตอบคำถาม
การแนะนำตัวเองในการสัมภาษณ์งานเป็นขั้นตอนสำคัญที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์ และเพิ่มโอกาสในการได้งานได้ ในบทความนี้ เราจะนำเสนอหลักการ 5 ข้อที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องแนะนำตัวเองในสัมภาษณ์งาน พร้อมกับการใช้หลักการ STAR Model (Situation, Task, Action, Result) ในการตอบคำถามเพื่อให้คำตอบโดดเด่นไม่เหมือนใคร จะต้องตอบอย่างไรไปดูกันเลย!
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่เราจะต้องพูดหลังจากได้ยินคำถาม คือการแนะนำตัวเองด้วยการบอกชื่อ นามสกุล ตำแหน่งงานปัจจุบันพร้อมกับประวัติการศึกษาหรือประวัติการทำงานแบบสั้นๆ เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์ได้รู้ว่าตัวเราคือใคร มาจากไหน และมีประสบการณ์จากการทำงานในตำแหน่งนั้น ๆ มานานเท่าไหร่แล้ว ซึ่งเราจะขอแบ่งออกมาเป็น 2 กรณีด้วยกัน ดังนี้
กรณีแรก ถ้าคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่ ที่กำลังจะมีการสัมภาษณ์งานเป็นครั้งแรก คุณสามารถแนะนำชื่อตัวเองพร้อมกับยกสถาบันการศึกษาและสาขาที่เกี่ยวข้องด้วยได้ ยกตัวอย่างเช่น “สวัสดีครับ ผมชื่อ ณัฐพล จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์”
กรณีที่สอง ถ้าคุณเป็นพนักงาน ที่กำลังเตรียมตัวสัมภาษณ์ย้ายงาน คุณสามารถพูดถึงตำแหน่งณ ปัจจุบันที่ทำอยู่พร้อมกับเล่าประสบการณ์คร่าว ๆ โดยการบอกตำแหน่งหรือองค์กรได้ เช่น “สวัสดีครับ ผมชื่อ วิทยา ตอนนี้ทำงานเป็นนักวิเคราะห์การตลาดที่บริษัท ABC และก่อนหน้านี้เคยทำงานที่บริษัท XYZ ในตำแหน่งนักวิจัยตลาด เป็นเวลา 3 ปี” เป็นต้น
นอกจากนี้เราสามารถบอกเกี่ยวกับจุดเเข็งที่เกี่ยวกับตำเเหน่ง “หนึ่งในจุดแข็งของผม คือการวิเคราะห์และแก้ปัญหาได้รับการยอมรับจากการทำงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์การตลาดจากบริษัท ABC” ซึ่งการแนะนำตัวเองแบบนี้ จะช่วยได้มาก ๆ ในการสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์เพราะทำให้ผู้สัมภาษณ์ได้รู้ประวัติ ความเป็นมา และประสบการณ์ของเราได้ดี (เพื่อน ๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแนะนำตัวเอง ได้ที่ “บล็อกนี้” ) แต่ในบทความนี้ เราจะไม่ได้มาสอนเพียงการแนะนำตัวง่าย ๆ เพราะว่าการที่เราจะแตกต่างและโดดเด่นจากคนอื่นได้ สิ่งสำคัญกว่าการแนะนำชื่อตัวเองแล้ว เราต้องเล่าประสบการณ์ของตนเองด้วย ซึ่งจะมีวิธีการเล่าอย่างไรให้น่าสนใจ เรามาทำความรู้จักกับหลักการที่เรียกว่า STAR Model กันค่ะ
STAR model คืออะไร? (ขอบคุณข้อมูลจาก Truevitualworld)
การใช้หลักการนี้จะช่วยทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นได้ถึงกระบวนการทำงานของเรา ตั้งแต่เริ่มคิด วางแผน ลงมือทำ ไปจนถึงผลลัพธ์จากสิ่งที่เราทำได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะนำไปใช้จริงอย่างไร เราไปดูตัวอย่างกันเลยค่ะ
ตัวอย่างการแนะนำตัวเอง
ตำแหน่ง Mobile Developer หรือนักพัฒนาแอปมือถือ
“ตอนที่ทำงานที่ ABC เราได้รับโปรเจกต์ใหญ่ให้พัฒนาแอปมือถือสำหรับจัดการข้อมูลลูกค้า ผมต้องรับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมพัฒนาแอปฯ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้เสร็จใน 6 เดือน เราทำงานแบบ Agile แบ่งงานออกเป็นสปรินต์ และเช็คความคืบหน้าทุกสัปดาห์ ผมใช้ Flutter ในการออกแบบ UI ของแอป และใช้ Jenkins สำหรับทำ automation CI/CD รวมถึงใช้ RESTFul APIs สำหรับเชื่อมต่อกับserviceอื่นๆ ซึ่งทำให้แอปประสบความสำเร็จตาม Timeline และมีผู้ใช้กว่า 100,000 คนภายใน 6 เดือน แถมแอปฯ ยังได้รับรางวัล ‘Best Innovation Award’ จากบริษัทด้วย”
Situation: ตอนที่ทำงานที่ ABC เราได้รับโปรเจกต์ใหญ่ให้พัฒนาแอปมือถือสำหรับจัดการข้อมูลลูกค้า
Task: ผมต้องรับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมพัฒนาแอปฯ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้เสร็จใน 6 เดือน
Action: เราทำงานแบบ Agile แบ่งงานออกเป็นสปรินต์ และเช็คความคืบหน้าทุกสัปดาห์ ผมใช้ Flutter ในการออกแบบ UI ของแอป และใช้ Jenkins สำหรับทำ automation CI/CD รวมถึงใช้ RESTFul APIs สำหรับเชื่อมต่อกับ service อื่นๆ
Result: ซึ่งทำให้แอปประสบความสำเร็จตาม Timeline และมีผู้ใช้กว่า 100,000 คนภายใน 6 เดือน แถมแอปฯ ยังได้รับรางวัล ‘Best Innovation Award’ จากบริษัทด้วย
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ การแนะนำตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลย ถ้าเพื่อน ๆ ได้ลองนำหลักการนี้ไปปรับใช้ เราเชื่อว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์และเพิ่มโอกาสในการได้งานได้อย่างแน่นอน เพราะการใช้หลักการ STAR Model ในการตอบคำถามสำหรับสัมภาษณ์งานนั้นจะช่วยทำให้ตอบคำถามได้กระชับ ทำให้ดูมีอาชีพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถทำให้คำตอบของเราดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทั้งนี้ เราเขียนบทความเจาะลึกการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานให้มืออาชีพ สามารถอ่านต่อได้เลยที่ “บล็อกนี้” ทาง Talance หวังว่าเทคนิคที่เราให้จะช่วยเพื่อนๆ ในการเตรียมตัวเองในการสัมภาษณ์ไม่มากก็น้อยนะคะ ใน EP ต่อไป จะเป็นคำถามอะไร และมีเทคนิคในการตอบอย่างไร รอติดตามได้เลยย~